วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เนื้อหาวิชาภาษาอังกฤษ ม.6 (01/52) by ครูต้าร์

เนื้อหาวิชาภาษาอังกฤษ ม.6 (สรุป)

Present Simple

1.ใช้ในการกล่าวถึงสิ่งต่างๆ ทั่วๆ ไป (General Statement) เช่น That chair has 4 legs.
2.ใช้ในการพูดถึงสิ่งที่ทำเป็นประจำ (Repeated Action) เช่น He always visits me.
3.ใช้ในการพูดถึงนิสัย (Habit) เช่น He always speaks loudly.
4.ใช้ในการพูดถึงปรากฏการณ์ธรรมชาติ (Natural Truth)
5.ใช้ในการพูดถึงประเพณี (Custom) เช่น We celebrate on New Year Day.
6.ใช้ในกรณีที่เป็นสุภาษิต หรือคำพังเพย (Proverbs or Sayings) เช่น Where there is a will, there is a way.
ใน Present Simple ส่วนใหญ่แล้วมักจะมี Adverb of Frequercy อยู่ด้วย


Adverb of Frequency

Always, usually, frequently. Often. Sometimes. Generally. Seldom. Rarely. Hardly. Ever, never
หมายเหตุ Adv.of Frequencies ยังใช้ใน Past Simple ได้ด้วย
ever = เคย never = ไม่เคย
สองคำนี้ยังใช้ใน Present Perfect ได้ด้วย
1. He never comes late = เขาไม่เคยมาสาย (เพราะเป็นนิสัย)
2. He has never come late. = เขาไม่เคยมาสาย (เพราะยังไม่มีโอกาส)


Present Continuous
รูปประโยค V. to be+ V.ing ใช้ในกรณีต่อไปนี้

1. กำลังกระทำขณะที่พูด I am teaching.
2. ทำเป็นประจำช่วงระยะเวลาหนึ่ง เช่น This semester we are studying at Bangkok = ภาคการศึกษานี้เราเรียนอยู่ที่กรุงเทพ (ทำเป็นประจำตลอดภาคการศึกษานี้)
3. พูดถึงสิ่งที่พัฒนาขึ้น Her English is improving = ภาษาอังกฤษของหล่อนดีขึ้น
4. ใช้ในความหมาย Future เมื่อเป็นแผนการของเหตุการณ์ He is getting married next month.

Adverb of Time
Now , right now , at present , at the moment , at this moment , today , still this…
ในกรณีที่ใช้ในการเล่าเรื่องในปัจจุบัน ใช้ดังต่อไปนี้

1.เหตุการณ์ที่เกิดก่อนและยังดำเนินอยู่ (ในปัจจุบัน) ใช้ Present Continuous ประโยคที่มาขัดจังหวะเป็น Present Simple. เช่น I am talking to them when he walks past me.
2. สองเหตุการณ์กำลังดำเนินอยู่ในเวลาเดียวกัน (ในปัจจุบัน) ใช้ Present Cont. ทั้งหมดประโยค เช่น While the teacher is explaining, the students are talking.


Present Perfect
รูปประโยค S + Have, Has + V3

ใช้ในกรณีต่อไปนี้
1.ทำตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน
I have taught English for 5 years.
ฉันสอนภาษาอังกฤษมา 5ปี แล้ว และปัจจุบันก็ยังสอนอยู่
2.เหตุการณ์นั้นเพิ่งจะเสร็จสิ้น
I have just had finished my lunch.
ฉันเพิ่งจะรับประทานอาหารเที่ยงเสร็จ (เมื่อกี้นี้เอง)

Adverb of Time ที่ใช้คือ
Since , for , already , yet , ever , never , up to now , up to the present time , so far , many times , several times , recently , lately , up till now , just


Present Prefect Continuous

รูปประโยค S + Have,Has + been + Ving

1.ใช้ในกรณีที่ต้องการจะบ่งบอกว่าเหตุการณ์นั้นได้เกิดขึ้นมาแล้วตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน และเหตุการณ์นั้นยังคงจะต้องดำเนินต่อไปในอนาคต
I have been writing since this morning.
ฉันได้กำลังเขียนมาตั้งแต่เช้าจนกระทั่งขณะนี้และยังจะต้อเขียนต่อไป)

2. ใช้ในการเล่าเรื่อง โดยที่เหตุการณ์นั้นเพิ่งจะเสร็จสิ้น แต่ผลยังคงดำเนินอยู่ในขณะที่พูด

Adverb Time ที่ใช้คือ
Since , for , so far , up to now , up to the present time


Past Simple Tense

1.ใช้ในการเล่าเรื่องในอดีต โดยที่เหตุการณ์นั้นเกิดแล้ว และจบแล้ว เวลาก็ผ่านพ้นไปแล้ว เช่น
He went to visit her last night. = เขาไปเยี่ยมหล่อนเมื่อคืนนี้

2.ใช้ในการเล่าเรื่องในอดีต โดยการเรียงลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกือบจะในเวลาเดียวกัน เช่น
Yesterday I saw a beggar. I opened my handbag, picked out a coin and gave it to him. = เมื่อวานนี้ฉันเห็นขอทาน ฉันเปิดกระเป่าถือหยิบเหรียญออกมาและให้ขอทานเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเกือบจะในเวลาเดียวกัน

Adverb of Time ที่ใช้ใน tense นี้
last…. , Yesterday , the other day , formerly previously , once

Past Continuous
ใช้ในการเล่าเรื่องในอดีตโดยบ่งบอกว่าเหตุการณ์นั้นกำลังดำเนินอยู่ในช่วงเวลานั้น (ในอดีต) เช่น
Last night at 9 p.m. I was watching television.
จะเห็นได้ว่าประโยคข้างต้นนี้ถูกหลักไวยากรณ์ (Grammar) ทุกอย่าง แต่ผู้ฟังจะรู้สึกว่าไม่ได้ความหมายครบถ้วน เพราะอาจจะอยากถามว่า ทำไม มีอะไรเกิดขึ้นหรือ เพราะฉะนั้น Past Continuous มักจะต้องใช้ควบคู่กับ Past Simple เช่น

While I was watching television last night, he telephoned me.
ขณะที่ฉันกำลังดูโทรทัศน์เมื่อคืนนี้ เขาโทรศัพท์มาหาฉัน
ประโยคนี้ให้ความหมายอย่างชัดเจน ในการเชื่อมประโยค Past Simple กับ Past Continuous นั้นใช้
when = เมื่อ + Past Simp.
While = ขณะที่ + Past Cont.
as = ขณะที่+ Past Cont. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนและยังดำเนินอยู่ให้ใช้ Past Cont. ประโยคที่มาขัดจังหวะให้ใช้ Past Simple Past Perfect รูปประโยค had + V.
ใช้ในการเล่าเรื่องในอดีตโดยบอกถึงเหตุการณ์ที่เกิดแล้วจบแล้วในเวลานั้น เพื่อที่จะให้ได้ใจความที่สมบูรณ์ จะต้องใช้ควบคู่กับ Past Simple เช่น When we reached the drug store, the pharmacist had left already. จะเห็นได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดก่อนและเสร็จสิ้นลงแล้วเป็น Past Perfect เหตุการณ์ที่เกิดทีหลังเป็น Past Simple

Future Tense
ใช้ในกรณีที่พูดถึงเหตุการณ์ในอนาคต Will ใช้ในกรณีต่อไปนี้

1.ในกรณีที่ผู้พูดตัดสินใจในขณะที่พูดที่จะทำสิ่งนั้นในอนาคต (ไม่ได้เป็นแผนการที่กำหนดไว้ก่อน หรือตั้งใจไว้ก่อน)
A: I am visiting Nancy tonight.
B: Oh! really. I will accompany you.
จากประโยคนี้จะเห็นได้ว่า B ไม่รู้เรื่องและไม่ได้เตรียมตัวไว้ก่อน แต่เขาตัดสินใจในขณะที่พูดที่จะไปเยี่ยม Nancy กับ A
2. ใช้กับเหตุการณ์ที่หลีกเหลี่ยงไม่ได้ในอนาคต เช่น She will be 15 next year. = หล่อนจะมีอายุ 15 ปีหน้า
3.ใช้ในการทำนาย คาดการเหตุการณ์ในอนาคตโดยไม่ได้มีหลักฐานอย่างแน่ชัด เช่น Next year all Thai population will be rich = ปีหน้าประชากรคนไทยทั้งหมดจะร่ำรวย

to be going to ใช้ในความหมายของ Future เมื่อ

- เป็นแผนการในอนาคต
I am going to join the party tonight = ฉันจะไปปาร์ตี้คืนนี้
- ใช้ในการทำนายหรือคาดคะเนเหตุการณ์ในอนาคต โดยมีหลักฐานอย่างแน่ชัด
The sky is dark and cloudy, so it is going to rain in an hour. = ท้องฟ้ามืดและปกคลุมไปด้วยเมฆเพราะฉะนั้นอีก 1 ชั่วโมงข้างหน้าฝนจะตก

หมายเหตุ
in+ระยะเวลา=ระยะเวลานั้นในอนาคต Present Continuous ใช้ Present Cont. ในความหมายของ Future เมื่อเป็นแผนการของเหตุการณ์ในอนาคตและมีการกำหนดเวลา เช่น
He is taking vacation next week. He is getting married next month.
ส่วน Present Simple ใช้ Present Simple ในความหมายของ future เมื่อเป็นตารางเวลา

กำหนดการและกฎระเบียบ
The next train arrives at 6 p.m. = รถไฟขบวนต่อไปจะมาถึง 6 โมงเย็น
Next school term starts on May 17. = ภาคการศึกษาหน้าจะเริ่มวันที่ 17 พฤษภาคม

Future Cont.
รูปประโยค will be + V.ing

ใช้ในการบ่งบอกถึงเหตุการณ์ที่จะกำลังดำเนินอยู่ในเวลาใดเวลาหนึ่งในอนาคต เช่นTomorrow at 9 a.m. I will be teaching at Wattana Academy.

Future Perfect
รูปประโยค will have + V.3


ใช้ในการพูดถึงเหตุการณ์ที่จะสำเร็จเสร็จสิ้นในเวลาใดเวลาหนึ่งในอนาคต เช่น
Tomorrow I will have finished this book.
พรุ่งนี้ฉันจะเขียนหนังสือเล่มนี้เสร็จ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น